วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ผ่าให้ดูภายในหลอดนีออน led T8

หลายคนคงสงสัยว่าภายในหลอด led T8 มันมีอะไรบ้าง เรามาดูกันครับ

ในภาพคือหลอด led T8 สภาพปกติ


ถ้าเราเอาพลาสติกหรือแก้วที่ครอบหลอดออกจะเห็นภายในหลอดแบบนี้ครับ





เราจะเห็นว่าปลายข้างหนึ่งของแถบ led จะมีวงจร ac/dc converter ชุดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้า A.C. 220 v เป็นไฟฟ้า D.C. ไม่กี่โวลต์จ่ายให้กับหลอด led ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งจะเป็นสายไฟธรรมดา




ส่วนมากหลอด led เสีย ไม่ได้เสียที่ตัวหลอด led แต่เสียที่ วงจร ac/dc converter ครับ เท่าที่เจอคือ เปิดสวิทช์ไฟแล้วหลอดมีการอาการสว่างแบบหรี่ บางครั้งเกิดจากคาปาซิเตอร์บวมครับ คือเสียหายตัวนี้นั่นเอง ก็ซื้อมาเปลี่ยนตัวละ 3 บาท บัดกรีเปลี่ยนใหม่ก็ใช้งานหลอดได้ต่อครับ

จบแล้วครับ สำหรับการผ่าให้ดูภายในหลอด led T8

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

การเจาะผนังปูนเพื่อการยึดหรือแขวนสิ่งของต่างๆ

งานแรกสำหรับการเขียนบล๊อกของผมเองคือ การเจาะผนังเพื่องานยึดหรือแขวนสิ่งต่างๆ สำหรับคนชอบงาน D.I.Y ครับ มีงานตัวอย่างต่างๆ เช่น
งานบล๊อคลอยสำหรับปลั๊กไฟ



ภาพด้านหลังงานกรอบรูป
งานแขวนกรอบรูป
งานบล๊อคสำหรับเบรกเกอร์
ชั้นวางหนังสือ

ขาเหล็กฉากยึดชั้นวางหนังสือ

งานแขวนนาฬิกา

          งานเหล่านี้ เราต้องมีการเจาะเพื่อยึดหรือแขวนกับผนังปูน สำหรับท่านที่ต้องการทำเองที่บ้าน ผมขอแนะนำการเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้ 



1. สว่าน สว่านที่ต้องใช้ต้องสามารถเจาะกระแทกได้ หมายถึงสว่านที่เราจะใช้งานผนังต้องสามารถเจาะกระแทกได้ ถ้าสว่านธรรมดาก็ใช้สำหรับงานนี้ไม่ได้ครับ

2. ไขควง ต้องใช้สำหรับการขันสกรูฝังลงในพุก

3. ค้อน ใช้สำหรับการตอกพุกฝังลงในผนังปูน ถ้าไม่มีค้อนเล็ก ค้อนใหญ่ก็ได้ครับ

4. ดอกสว่าน ต้องเป็นดอกส่วานที่ใช้สำหรับเจาะปูน ผมแนะนำให้ซื้อดอกสว่านเจาะปูนอย่างดีครับ เพราะถ้าใช้อย่างถูก เวลาใช้งานจริงเจาะไม่เข้าแล้วหัวดอกส่วานก็เสียแล้วครับ ซื้อแบบถูกเสียเงินฟรีใช้งานไม่ได้ ซื้อดีหน่อยใช้เจาะได้จนบ้านพรุนก็ยังไม่พังครับ ส่วนขนาดของดอกสว่านสำหรับงานตามตัวอย่างให้ซื้อดอกสว่าน 2 ขนาดก็พอครับ คือ ขนาดพุกเบอร์ 6 ใช้ดอก 6mm ได้ครับ พุกเบอร์ 7 ใช้ดอก 6.5mm หรือถ้ามันอาจจะเขียนเป็นหน่วยนิ้ว คือ 1/4" ครับ

5. พุกพลาสติก ก็ซื้อ 2 เบอร์ก็พอครับก็คือ พุกเบอร์ 6 กับพุกเบอร์ 7 โดยจะซื้อมากน้อยแค่ไหน ร้านจะมีขายเป็นกล่องหรือแบบเป็นห่อพลาสติคจำนวนน้อยครับ

6. สกรูสำหรับขันใส่ยึดหรือแขวน จะมีขนาดต่างๆ และความยาวของสกรูต่างกัน อยากรู้ว่าต้องใช้ขนาดไหนก็เอาพุกพลาสติกเทียบซื้อเลยครับว่าเราต้องการให้สกรูโผล่มาจากพุกแค่ไหน

7. สก๊อตเทป หลายท่านคงงงว่าใช้ตรงไหน ได้ใช้แน่ครับ

8. ถุงพลาสติก ขนาดไหนก็ได้ครับ แต่ควรใช้ขนาด 6 นิ้วหรือ 8 นิ้วก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ครับ หาเศษถุงที่เราเก็บไว้ครับมาใช้

9. ปากกาเคมี 1 ด้าม อันนี้ลืมถ่ายรูปมาด้วย 


คราวนี้มาลงมือกันเลยครับ

 เราต้องหาตำแหน่งที่เราจะเจาะผนังครับ หลังจากที่เรารู้ว่าจะเจาะตรงไหนก็มาเตรียมดอกสว่านกันครับ

   จากภาพจะเห็นพุกสองขนาดคือ เบอร์ 6 และเบอร์ 7 โดยจะเห็นตัวเลขที่พุก เราก็เลือกดอกสว่านให้ถูกขนาดด้วยครับ

จากนั้นนำพุกที่เราจะใช้มาเทียบกับปลายดอกสว่านแล้วเอาปากกาเคมีมามาร์คระยะความยาวไว้ เวลาเราเจาะผนังปูนจะได้รู้ว่าต้องเจาะความลึกเท่าไหร่สำหรับฝังพุกให้พอดี



คราวนี้เรามาใช้งานถุงพลาสติคกับสก๊อตเทปกันครับ

นำถุงพลาสติคที่เราเตรียมไว้มาติดด้วยสก๊อตเทป ใช้สก๊อตเทปความยาวประมาณ 4-6 นิ้ว โดยติดแถบบนที่ปากถุงครับ ถุงนี้ใช้เพื่อรองเศษฝุ่นผงปูนที่เกิดจากการเจาะผนังครับ ไม่งั้นเราต้องมากวาดเศษผงปูน


หลังจากนั้นเอาถุงพลาสติคที่เราติดสก๊อตเทปมาติดบริเวณใต้จุดที่เราจะเจาะรูครับ โดยติดต่ำกว่าจุดที่เราจะเจาะรูประมาณ 1 เซ็นติเมตร แล้วกางถุงออกไว้รับเศษผงจากการเจาะรู

จากนั้นก็ปรับสว่านเป็นแบบเจาะกระแทก แล้วเจาะตามตำแหน่งที่เราต้องการ โดยเจาะแล้วดูระยะที่เราขีดไว้บนดอกสว่านด้วยครับ เพื่อที่จะเจาะรูได้ขนาดความลึกพอดีกับพุก เศษผงปูนที่เกิดจากการเจาะจะหล่นไปในถุงพลาสติกที่เรารองรับไว้ครับ


หลังจากเจาะได้ขนาดและความลึกที่ต้องการแล้ว ก็แกะเอาถุงพลาสติคที่มีเศษผงปูนออกไปทิ้ง แล้วเอาค้อนกับพุกมาใส่ครับ โดยใช้ค้อนตอกเข้าไปมันจะแน่นพอดีกับรูที่เราเจาะไว้ครับ


จากนั้นก็เอาสกรูมาใส่ แล้วใช้ไขควงขันเข้า


เสร็จเรียบร้อยครับ สำหรับงานเจาะผนังปูนฝังพุกพลาสติคสำหรับงานแขวนหรือยึดสิ่งของที่มีน้ำหนักไม่มาก ส่วนงานฝังพุกขนาดใหญ่หรืองานฝังพุกเหล็กไว้มีโอกาสจะนำเสนอต่อไป